จรรยาบรรณทางธุรกิจ
บริษัทยึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ดี ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานขององค์กรดำเนินไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทได้กำหนดจรรยาบรรณทางธุรกิจ ซึ่งกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน จะยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติในการทำงาน 12 เรื่องดังนี้
บริษัทถือว่าพนักงานทุกคนเป็นทรัพยากรอันมีค่ายิ่งของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงได้กำหนดนโยบายในด้านการรับฟังความคิดเห็นพนักงาน ดังนี้คือ
- ให้โอกาสในการทำงานและการเรียนรู้ รวมทั้งจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ บริษัทมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้พนักงานทุกคนเรียนรู้และพร้อมที่จะให้โอกาสแก่พนักงานทุกคนในการพัฒนาศักยภาพของตนอย่างเต็มที่เท่าที่ทางบริษัทจะสามารถกระทำได้ นอกจากนี้บริษัทยังมีนโยบายในการตอบแทนพนักงานตามผลงานและการอุทิศตัวให้กับการทำงาน
- ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในหมู่พนักงาน ภายใต้บรรยากาศที่เข้าอกเข้าใจกัน มีความไว้วางใจและเคารพซึ่งกันและกัน บริษัทจะแจ้งให้พนักงานทราบเป็นระยะๆ ในกรณีที่มีการปรับเปลี่ยนเป้าหมาย ปรับเปลี่ยนทิศทางการทำงาน และในเรื่องของผลงานของบริษัท ซึ่งถือว่ามีผลกระทบโดยตรงต่อพนักงานทุกคน บริษัทจะจัดให้มีระบบรับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน และจะส่งเสริมให้พนักงานได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหัวหน้างานหรือเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร
- บริษัทเคารพและปกป้องความเป็นส่วนตัว และข้อมูลลับเฉพาะของพนักงาน บริษัทยันยืนให้ความคุ้มกันข้อมูลบุคคลของพนักงานที่เกี่ยวกับการว่าจ้างที่มีอยู่ทั้งหมดในทุกขั้นตอนที่ปฏิบัติได้ และอย่างสมเหตุสมผล ในทางกลับกันพนักงานของบริษัทก็จะต้องรักษาข้อมูลของบริษัท และปกป้องมิให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปดู เข้าไปใช้ หรือเข้าไปทำลายได้ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลอันเป็นความลับของบริษัท ต่อบุคคลภายนอก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ตนเอง หรือผู้อื่น เว้นแต่เป็นข้อมูลที่ผู้มีอำนาจอนุมัติให้เปิดเผยได้ รวมทั้งไม่เปิดเผยข้อมูลเชิงธุรกิจต่อคู่แข่งขัน ที่ส่งผลให้บริษัท ได้รับความเสียหาย และ/หรือเสียโอกาสทางธุรกิจ
การปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนโดยเสมอภาคกัน บริษัทจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือล่วงละเมิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ สภาพร่างกาย หรือสภาวะทางจิตใจ เรื่องเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา อายุหรือสถานภาพทางครอบครัว ในที่ทำงานพนักงานของเราทุกคนก็จะต้องปฏิบัติต่อลูกค้า คู่ค้า และผู้รับเหมาของบริษัทด้วยมาตรฐานเดียวกันนี้เช่นกัน
พนักงานต้องไม่กระทำหรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นการเลือกปฏิบัติ เชื้อชาติ ศาสนา ชนชั้น การกดขี่กีดกัน การต่อต้านทางเพศ ซึ่งส่งผลให้บริษัทเสียโอกาสและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำดังกล่าว
พนักงานต้องไม่กระทำการหรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่บังคับ ขู่เข็ญ ที่แสดงให้เห็น หรือทำให้เข้าใจว่าเป็น การหยิบยื่นข้อเสนอการมีความสัมพันธ์ทางเพศ โดยแอบอ้างและ/หรือใช้ อำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการได้รับผลประโยชน์ การจ้างงาน การประเมินผลงาน การขึ้นเงินเดือน ความก้าวหน้า การมอบหมายงาน การจัดเวลาทำงาน สภาพการจ้างงาน หรือการพัฒนา ความก้าวหน้าในอาชีพ ซึ่งส่งผลให้บริษัทได้รับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว โดยผู้เกี่ยวข้องไม่ยินยอม
นโยบายของบริษัทมิได้มีเพียงแค่นี้ แม้บางเรื่องที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ แต่บริษัทยังเลือกที่จะให้ความสำคัญในเรื่องจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ ขนบธรรมเนียม ประเพณีท้องถิ่นและสิ่งอื่น ๆ อาจแตกต่างกันไปได้ในแต่ละท้องที่และความแตกต่างเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ แต่เรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจโต้แย้งได้ไม่ว่าในที่ใดก็ตาม หากมีปัญหาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์เกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาคือความเสื่อมเสียศีลธรรม ซึ่งทางบริษัทถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร
พนักงานต้องเข้าใจว่าบริษัทไม่ได้พิจารณาเพียงผลสำเร็จของงานเท่านั้น แต่ยังได้พิจารณาไปถึงลักษณะในการทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานนั้น ๆ ด้วย พนักงานทุกคนควรจะพูดคุย ปรึกษาหารือกับฝ่ายจัดการในระดับที่สูงกว่า บันทึกการทำธุรกรรมต่าง ๆ อย่างถูกต้อง และซื่อสัตย์ต่อผู้ตรวจสอบภายในและผู้ตรวจสอบจากภายนอกของบริษัท พนักงานต้องรายงานสิ่งที่สงสัยว่าขัดต่อกฎหมายและขัดต่อนโยบายของบริษัทให้ฝ่ายจัดการได้รับทราบ
บริษัทหวังว่าพนักงานทุกคน ทุกระดับชั้นจะปฏิบัติตามมาตรฐานความซื่อสัตย์นี้ บริษัทจะไม่ยอมให้พนักงานคนใดกระทำการอันผิดกฎหมาย โดยจะให้การสนับสนุนและให้การส่งเสริมแก่ผู้ที่อุทิศตนให้กับมาตรฐานทางจรรยาบรรณนี้ และหวังว่าพนักงานทุกคนก็จะให้ความสนับสนุนแก่บุคคลเหล่านั้นเช่นกัน
สิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ ความตรงไปตรงมาของพนักงานทุกระดับชั้นและการปฏิบัติตามนโยบายของบริษัท กฎระเบียบทางการบัญชีและการสอบบัญชี ภายใต้ระบบการบริหารการจัดการของบริษัทนั้น ทั้งนี้ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งรวมถึงความถูกต้องในด้านระบบบัญชี การสอบงบประมาณ การประเมินผลตอบแทนของแต่ละโครงการ การกระทำผิดนั้น ไม่เพียงเป็นการสร้างแบบอย่างที่ไม่ดีต่อผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของบริษัท และบริษัทย่อย อีกด้วย
บริษัทมีนโยบายที่จะรักษาผลประโยชน์อันชอบธรรม ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติดังนี้
กรรมการบริษัทและพนักงานทุกคนควรจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ของบริษัทในการติดต่อกับคู่ค้า ลูกค้าและบุคคลภายนอก รวมทั้งในกิจการส่วนตัว ซึ่งถ้าจะให้ยกสถานการณ์จะกล่าวต่อไปนี้เป็นกรณีที่ขอให้พนักงานทุกคนหลีกเลี่ยง
กรณีที่พนักงานทำงานให้กับบริษัทไม่ว่าจะเป็นในฐานะพนักงานประจำหรือที่ปรึกษา พนักงานผู้นั้นไม่อาจที่จะรับตำแหน่งกรรมการบริหารขององค์กรการค้า องค์กรทางการเงิน หรือองค์กรอุตสาหกรรมใดๆ อีก โดยที่ยังมิได้รับอนุมัติจากบริษัท
กรณีที่กรรมการบริษัทหรือพนักงานใช้หรือให้ หรืออนุญาตให้บุคคลภายนอกใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในของบริษัท ซึ่งได้มาจากตัวกรรมการหรือพนักงานหรือได้มาจากการทำงานของกรรมการหรือพนักงานดังกล่าว ในระหว่างการว่าจ้างหรือหลังการว่าจ้างโดยที่ยังมิได้รับอนุมัติอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
บริษัท จะไม่ยอมให้มีการใช้ข้อมูลภายในบริษัท เพื่อประโยชน์ส่วนตนของพนักงานคนใด การใช้ข้อมูลภายในซึ่งยังมิได้เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อประโยชน์ส่วนตัวถือว่าผิดกฎหมาย ขาดจรรยาบรรณและเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างเด็ดขาด ในการนี้กรรมการบริษัทและบุคคลที่กำหนดจะต้องปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทในเรื่องการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ด้วย
กรรมการบริษัท พนักงาน หรือสมาชิกในครอบครับของกรรมการ หรือพนักงานของบริษัท ไม่ควรทำการให้กู้หรือการค้ำประกันเงินกู้แก่บุคคล หรือองค์กรใดที่ทำธุรกิจกับบริษัท รวมทั้งไม่ควรกู้ยืมเงินจากบุคคลหรือองค์กรดังกล่าว (เว้นแต่การซื้อไฟฟ้า) แต่อย่างไรก็ตามบริษัท ไม่มีข้อกำหนดในเรื่องการกู้ยืมเงินตามปกติจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน
ในกรณีที่ผู้บริหาร หรือพนักงาน หรือสมาชิกครอบครัวของกรรมการ หรือพนักงานของบริษัทมีธุรกิจ หรือคิดที่จะดำเนินธุรกิจ คิดที่จะลงทุน หรือที่กำลังดำเนินกิจการที่มีอยู่แล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อชัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัท บริษัท ถือว่าเป็นความรับผิดชอบที่บุคคลที่เกี่ยวข้องจะต้องเปิดเผยกับบริษัท อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้บริหาร หรือพนักงานคนหนึ่งคนใด หรือคู่สมรส หรือบุตรจะขาย ให้เช่า เช่าซื้อ อสังหาริมทรัพย์ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ หรือให้บริการต่าง ๆ ให้บริษัทอื่น ๆ ในบริษัทย่อย บุคคลผู้นั้นจะต้องแจ้งให้บริษัท ทราบ
ผู้ใดก็ตามที่ให้บริการ หรือการให้บริการทรัพย์สิน รวมทั้งให้บริการ วัตถุดิบต่างๆ ของบริษัท โดยที่มิได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ เป็นทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือนำไปขาย ถือเป็นการขโมย เป็นการโจรกรรม ผู้กระทำผิดต้องโทษไล่ออก และถูกลงโทษตามกฎหมาย
ในกรณีที่ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลหรือการอนุมัติตามที่กำหนดไว้ในนโยบายข้างต้นนี้ จะต้องการเปิดเผยข้อมูลต่อกรรมการบริษัท การเปิดเผยข้อมูลนั้นจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรทุกๆปี
บริษัทมุ่งหวังให้การดำเนินธุรกิจของบริษัท เป็นไปในทางที่มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม บนพื้นฐานของนโยบายที่เปิดกว้าง การรับหรือการให้ของขวัญหรือผลประโยชน์ใดๆ เช่น เงิน ทอง หุ้น ทรัพย์สินต่างๆ การท่องเที่ยวพักผ่อน งานเลี้ยง การบริการต่างๆ เป็นต้น อันมุ่งก่อให้เกิดผลต่อการตัดสินใจ อย่างไม่ชอบธรรม บริษัทจึงห้ามไม่ให้กรรมการและพนักงานรับผลประโยชน์จากลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัท และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท กรรมการและพนักงานควรจะปฏิเสธไม่รับสิ่งตอบแทน อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของตน เว้นแต่ว่าสิ่งของที่ได้รับนั้นมีมูลค่าเพียงเล็กน้อย และถ้าหากปฏิเสธไม่รับของกำนัลนั้น ก็จะเป็นการเสียมารยาท
อย่างไรก็ตาม การให้ของขวัญหรือการเลี้ยงรับรอง หรือการรับของขวัญหรือการรับการเลี้ยงรับรอง ตามสมควรแก่กรณี ตามทำนองครองธรรม หรือ ตามธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน บริษัทจึงได้กำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการรับของขวัญและ/หรือของกำนัล ซึ่งมีมูลค่าเกินปกติวิสัยจากผู้ที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจกับบริษัท หรือจากผู้อื่น ซึ่งอาจได้ประโยชน์จากการปฏิบัติงานของพนักงานของบริษัท
- หลีกเลี่ยงการรับเลี้ยงจากผู้ที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจกับบริษัท หรือจากผู้อื่น ซึ่งอาจได้ประโยชน์จากการปฏิบัติงานของพนักงานของบริษัท
- ของขวัญที่ได้รับควรเป็นสิ่งที่มีมูลค่าไม่มากนัก และต้องไม่ควรเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสด เงินกู้ คอมมิชชั่นและ โดยการรับของขวัญนั้นจะต้องไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงธุรกิจใดๆ ของผู้รับ
- หากกรรมการและพนักงานได้รับของขวัญในโอกาสตามประเพณีที่มีมูลค่าเกินกว่าปกติวิสัยจากผู้เกี่ยวข้องทางธุรกิจกับบริษัท ให้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับ
- การให้หรือรับของขวัญ อาจกระทำได้หากกระทำด้วยความโปร่งใส หรือทำในที่เปิดเผย หรือ สามารถเปิดเผยได้
- กรณีได้รับมอบหมายหรือได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาให้ไปช่วยเหลือหน่วยงานภายนอก อาจรับเงิน สิ่งของหรือของขวัญได้ตามหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานภายนอกนั้นกำหนดและใช้เป็นการทั่วไป เช่น การได้รับของขวัญ หรือของกำนัลจากการจับฉลาก ชิงรางวัล
- พนักงานจะต้องปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติงานในทุกๆ กรณี รวมถึงการรักษามาตรฐานสูงสุดและรักษาจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจและการตามกฎหมายไทย หรือกฎหมายของประเทศอื่นที่เกี่ยวข้อง ถ้าพนักงานคนใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ก็สามารถสอบถามได้จากฝ่ายบริหารของบริษัท นอกจากนี้ พนักงานควรจะปฏิบัติตามนโยบายของบริษัทเกี่ยวกับเรื่องการรับของกำนัล และการเลี้ยงรับรองด้วย
- แม้ว่าการเลี้ยงรับรองจะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจและเป็นรูปแบบทางสังคมที่ยอมรับโดยทั่วไป แต่กรรมการและพนักงานของบริษัทสมควรที่จะปฏิเสธที่จะรับเชิญการเลี้ยงรับรองที่จัดขึ้นบ่อยครั้งเกินไป ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้บริษัทต้องละเลยวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจไป การเลี้ยงรับรองนั้นจะต้องไม่ทำในสถานการณ์เกี่ยวข้องกับการประมูลงานหรือบริการให้กับบริษัท
- เมื่อจะมีการให้ของกำนัล ควรจะมอบให้แก่บริษัทแทนที่จะให้แก่บุคคลเฉพาะราย หากมีการให้ของกำนัลแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด ของกำนัลนั้นไม่ควรมีมูลค่าสูง
- การให้ของกำนัลและการเลี้ยงรับรองควรจะไม่มากหรือกระทำบ่อยครั้งเกินไป เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอาจถูกมองได้ว่าเป็นความพยายามที่ไม่เหมาะสมในการชักจูงหรือโน้มน้าวการตัดสินใจในเชิงธุรกิจ การใช้วิจารณญาณในการพิจารณาความเหมาะสมในการให้ของกำนัลและการเลี้ยงรับรองจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
- การให้ของกำนัลและการเลี้ยงรับรองนั้น ให้เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทเท่านั้น
- ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อในเรื่องเหล่านี้ ควรจะอยู่ภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม ได้รับการอนุมัติและมีการบันทึกหรือเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ไว้เป็นข้อมูลทางการเงินของบริษัท
- สำหรับตัวแทน คู่สัญญา หุ้นส่วนหรือผู้อื่นที่ให้ของขวัญหรือจัดเลี้ยงรับรองในนามของบริษัท ควรที่จะได้รับการอนุมัติจากบริษัทก่อน ตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติในเรื่องนี้
นโยบายข้อหนึ่งของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ คือ การจัดให้มีความปลอดภัยในการทำงานให้แก่พนักงาน บุคคลที่มาติดต่อกับบริษัทและสาธารณะ ด้วยความร่วมมืออย่างจริงจังจากพนักงานทุกคน บริษัทจะให้การป้องกันอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและการเจ็บป่วยจากการทำงาน ในการนี้บริษัทให้คำมั่นว่าบริษัทจะพยายามดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการกำหนดและการลดความเสี่ยงอันเกิดจากการปฏิบัติงาน รวมทั้งการจัดให้มีระบบความปลอดภัยในการทำงาน บริษัท ได้กำหนดนโยบายในเรื่องนี้ไว้ดังนี้ คือ
- มีการออกแบบเครื่องมือเครื่องใช้ วางระบบการปฏิบัติการ จัดการอบรมและจัดให้มีระบบการทำงานที่มีความปลอดภัยต่อพนักงาน ทรัพย์สิน และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ให้ความใส่ใจดูแลอย่างมีประสิทธิภาพและอย่างทันท่วงที ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงาน จะทำการประสานกับองค์กรอุตสาหกรรมและองค์กรรัฐบาลและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ โดยจะปฏิบัติตามมาตรฐานการทำงานที่บริษัทกำหนดขึ้น
- ร่วมมือกับหน่วยงานราชการต่างๆ และองค์กรอื่นๆ ตามความเหมาะสมเพื่อพัฒนากฎหมาย ระเบียบ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท
- ทำการวิจัยและสนับสนุนการวิจัยเพื่อเพิ่มทักษะในเรื่องผลกระทบทางด้านความปลอดภัยของการประกอบกิจการ โรงงาน อุปกรณ์การทำงาน ระบบการส่งกระแสไฟฟ้า หรือเครือข่ายการจ่ายกระแสไฟฟ้า และการนำเอาผลการวิจัยมาใช้และถ่ายทอดให้แก่พนักงาน ลูกค้า อุตสาหกรรม และหน่วยงานของรัฐและองค์กรสาธารณะทั้งหลาย
- ชี้นำให้พนักงานทุกคนรับผิดชอบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่
- ทบทวน ปรับปรุง และประเมินผลในความก้าวหน้าในการทำงานและจัดให้มีการปฏิบัติตามนโยบายทางด้านความปลอดภัยในการทำงาน
บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะจัดสถานที่ทำงานที่มีความปลอดภัยและถูกสุขอนามัยแก่พนักงานทุกคน และแก่บุคคลที่มาติดต่อกับบริษัท พนักงานของบริษัททุกคนไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดก็ตาม มีความรับผิดชอบในอันที่จะสนับสนุนการดำเนินการของบริษัทตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ ทั้งในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองและการสังเกตการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานคนอื่นๆ รวมทั้งผู้มาติดต่อและบุคคลภายนอกที่มาติดต่อหรืออาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท หากพบเห็นสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยหรืออาจจะไม่ปลอดภัย พนักงานจะต้องแจ้งเรื่องดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบทันที เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขสถานการณ์ต่อไป โดยบริษัทมีนโยบายดังต่อไปนี้
- กำหนดและประเมินผลกระทบต่อสุขภาพจากการทำงาน
- วางแผน สนับสนุน และประเมินผลโครงการเพื่อกำจัดหรือควบคุมผลเสียต่อสุขภาพที่เกิดจากการทำงาน
- เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคอันเกิดจากงานที่ทำต่อพนักงาน
- ให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพอันเนื่องมาจากการทำงาน และอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสังคม บุคคล หรือกลุ่มต่างๆ ที่อาจได้รับผลกระทบ โดยการให้ความรู้ดังกล่าวนี้ให้ทำในเวลาและรูปแบบที่เหมาะสม
- กำหนดให้พนักงานมีความพร้อมทางร่างกายในการทำงานโดยปราศจากอันตรายต่อตนเอง หรือต่อผู้อื่น ทั้งในระหว่างระยะเวลาการจ้างหรือหลังจากนั้น
- จัดให้มีการบริการทางการแพทย์ที่จำเป็นเพื่อการรักษาอาการป่วยหรือการบาดเจ็บอันเกิดจากการงานที่ทำ และเพื่อการให้บริการทางการแพทย์ในกรณีฉุกเฉิน
เพื่อประโยชน์ในการนำนโยบายนี้มาใช้ ทางบริษัทเชื่อมั่นว่าการจัดให้มีการบริการในด้านการป้องกันสุขภาพ อาทิเช่น การศึกษาอันเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยและการรักษาความสะอาดจะทำให้พนักงานปฏิบัติตามนโยบายนี้ อีกทั้งยังเป็นการรักษาสุขภาพของพนักงานแต่ละคนอีกด้วย
ทางบริษัทถือว่าการใช้แอลกอฮอล์ ยา และสารอื่นๆ จะทำให้ความสามารถในการทำงานของพนักงานเสียไป และจะมีผลเสียอย่างมากต่อความปลอดภัยและต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานอื่นๆ และของบริษัทการใช้ยาในทางที่ผิดหรือการใช้ ครอบครอง แจกจ่ายและขายยาที่ผิดกฎหมายในขณะทำงาน หรือภายในบริเวณที่ทำการของบริษัทเป็นสิ่งที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด และการกระทำดังกล่าวถือเป็นเหตุแห่งการเลิกจ้างได้ บริษัทไม่อนุญาตให้มีการครอบครอง ใช้แจกจ่ายหรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานที่ทำการของบริษัทเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากกรรมการผู้จัดการหรือคณะกรรมการบริษัทเสียก่อน ความบกพร่องในการปฏิบัติงาน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้ยา แอลกอฮอล์ หรือสารอื่นๆ ถือเป็นเหตุแห่งการเลิกจ้าง เว้นแต่เป็นกรณีเพื่อการรักษาพยาบาล ซึ่งได้รับอนุมัติจากบริษัทแล้ว
บริษัทถือว่าการติดแอลกอฮอล์ หรือยาเป็นอาการที่สามารถรักษาได้ พนักงานคนใดซึ่งติดแอลกอฮอล์ หรือยา ควรขอรับการรักษาที่เหมาะสมโดยทันที
บริษัทมีนโยบายที่จะประกอบธุรกิจในแนวทางที่ไม่สร้างความขัดแย้งระหว่างการรักษาสภาพแวดล้อม และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในเขตที่บริษัทดำเนินกิจการอยู่ นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายที่จะปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายบังคับใช้ บริษัทจะนำเอาหลักความรับผิดชอบตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้แทน และมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงลักษณะสภาพแวดล้อมผ่านทางธุรกรรมของบริษัทโดยตลอด กระตุ้นให้พนักงานแต่ละคนมีความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม และมีการให้การฝึกหัดและอบรมที่เหมาะสมแก่พนักงานในด้านที่เกี่ยวกับการรักษาสภาพแวดล้อม โดยจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสาธารณชนในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้อื่นเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงรูปแบบในการประกอบการอุตสาหกรรม ซึ่งกำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ดังนี้
- ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาลและกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น เพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนากฎหมายและกฎระเบียบในด้านสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม รวมทั้งการให้คำแนะนำด้านผลกระทบของกฎหมายและกฎระเบียบดังกล่าวที่มีต่อสภาพแวดล้อม ต้นทุนและการใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม
- ประกอบธุรกิจโดยมีเป้าหมายในการปฏิบัติตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่ใช้บังคับ และในการลดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมให้มีความเสียหายน้อยที่สุดภายใต้มาตรฐานทางสิ่งแวดล้อมเช่นว่านั้น รวมทั้งจะดำเนินการออกแบบ ประกอบการและบำรุงรักษาปัจจัย วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ของบริษัทให้ได้มาตรฐานดังกล่าว
- แก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหากมีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นและให้ความร่วมมือกับองค์กรอุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ
- สนับสนุนให้มีการวิจัย เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องผลกระทบจากการประกอบธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงมาตรการในการป้องกันสิ่งแวดล้อม และการปรับปรุงการประกอบกิจการและการให้บริการของบริษัท ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
- จัดให้มีการตรวจสอบและการประเมินผลกระทบของการประกอบกิจการ เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามและถูกต้องในการปฏิบัติตามนโยบายในด้านสิ่งแวดล้อม
คำจัดความ ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) หรือ ลิขสิทธิ์ (Copyright) คือทรัพย์สินที่เกิดจากความคิด แนวคิด ที่บริษัทได้ริเริ่มสร้างสรรค์เป็นของบริษัทเอง เพื่อใช้ในการจัดการทางธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้งานที่สร้างสรรค์จากพนักงานที่เป็นลูกจ้างของบริษัทเป็นผู้สร้างสรรค์ และบริษัทถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มิควรเผยแพร่ให้กับบุคคลอื่นนำไปใช้ประโยชน์ได้ และถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าของบริษัท ที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และสามารถกระตุ้นให้เกิดโอกาสทางธุรกิจ หากพนักงานไม่แยกแยะ และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้ บริษัทอาจสูญเสียเอกสิทธิ์และความได้เปรียบทางธุรกิจ ตัวอย่าง ทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่ เครื่องหมายการค้า ความลับทางการค้า เป็นต้น โดยบริษัทกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติดังนี้
- พนักงานต้องปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทโดยจะไม่เปิดเผยก่อนได้รับอนุญาต
- พนักงานต้องปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา โดยไม่ใช้ผิดวิธี หรือผิดกฎหมาย และเมื่อใช้ต้องแน่ใจว่าได้ประทับตราหรือแสดงเครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายบริการของบริษัท เช่น การใช้ตราสัญลักษณ์โลโก้บริษัท เป็นต้น
- พนักงานต้องแจ้งให้บริษัททราบถึงการค้นพบ การประดิษฐ์ (เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิ่งประดิษฐ์ทางเทคโนโลยี) รวมไปถึงข้อมูลจำเพาะ ที่ได้พัฒนาขึ้นในช่วงเวลาปฏิบัติงานในบริษัทหรือใช้ทรัพยากรของบริษัท
- พนักงานต้องช่วยบริษัทเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ หรือ ปกป้องเครื่องหมายการค้า ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท
บริษัทมีความประสงค์ที่จะให้การจัดซื้อสินค้า การว่าจ้าง และการจัดหาบริหารต่างๆ ดำเนินไปภายใต้มาตรฐานสูงสุดและเป็นไปตามหลักการดังต่อไปนี้
- หากสามารถดำเนินการได้ บริษัทจะจัดให้มีการเสนอราคาและคัดเลือกผู้ทำการเสนอราคาที่มคุณสมบัติเหมาะสม
- ทำการประเมินราคาและคัดเลือกคู่ค้าและคู่สัญญา
- จัดทำสัญญาในรูปแบบที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการ
- นำเอาระบบการตรวจสอบและการควบคุมการจัดการที่มีประสิทธิภาพมาใช้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบการปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญาและตรวจสอบการทุจริต การฉ้อฉล และการดำเนินการต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องใน ทุก ๆ ขั้นตอนของกระบวนการจัดหา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับคู่ค้าและคู่สัญญา โดยมุ่งหมายให้ความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจดังกล่าวนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ทางธุรกิจการเงิน คุณสมบัติทางเทคนิค สถานะภาพทางการเงินและความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน
บริษัทมีนโยบายห้ามมิให้มีการติดสินบนและการทุจริต พนักงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการคัดเลือกและจัดซื้อจัดจ้างที่และต้องเกี่ยวข้องกับคู่ค้าและคู่สัญญาของบริษัทควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด หรือมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดการแทรกแซง หรืออาจจะก่อให้เกิดการแทรกแซงการตัดสินใจโดยอิสระและเป็นเอกเทศเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างนั้น
บริษัทให้คำมั่นว่าจะชำระเงินให้แก่คู่ค้าและคู่สัญญาตรงตามกำหนดและถูกต้องตามเงื่อนไขทางการค้าที่วางไว้
บริษัทมีความมุ่งหมายที่จะเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นในระยะยาว ผู้ถือหุ้นและผู้สนับสนุนทางการเงิน จะได้รับผลตอบแทนจากการดำเนินกิจการที่มีประสิทธิภาพ มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าจากกลุ่มบริษัทและบริษัทย่อย
บริษัทตระหนักดีว่าผู้ถือหุ้นและผู้ที่มีความสนใจจะเข้าถือหุ้นของบริษัท มีสิทธิที่จะรับทราบข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจในการลงทุน ข้อมูลที่เป็นจริงและถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารของบริษัทและบริษัทย่อย สถานะทางการเงินและผลประกอบการ จะได้รับการเผยแพร่อย่างสม่ำเสมอตามกฎของตลาดหลักทรัพย์
เป็นนโยบายของบริษัทที่จะจัดให้มีการบันทึกบัญชีและระบบบัญชีที่ถูกต้องสมบูรณ์ รายการทางบัญชีทั้งหมดรวมทั้งรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะถูกเก็บรักษาและนำเสนอตามที่กำหนดไว้ตามกฎหมายและมาตรฐานทางการบัญชี ฝ่ายบัญชีมีหน้าที่แจ้งรายละเอียดรายการทางบัญชีของบริษัทที่ถูกต้องตามสมควรและแสดงให้เห็นธุรกรรมและสินทรัพย์ของบริษัท
บริษัทมีเจตนารมณ์อันแจ้งชัดในอันที่จะป้องกันมิให้ความผิดพลาด คลาดเคลื่อนหรือข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้นในการจัดทำสมุดและบัญชี เอกสารหรือรายการทางการเงินของบริษัท ดังนั้น การลงรายการทางบัญชีที่ไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง การสร้างหรือการจัดทำตัวเลขทางบัญชีที่ไม่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด กรรมการหรือพนักงานผู้ใดที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตทางการเงิน หรือการจัดทำบัญชีที่ไม่ถูกต้อง จะต้องรายงานเรื่องนี้ต่อบริษัท โดยทันที
ผู้จัดการทุกฝ่าย/ส่วนต้องดูแล ให้คำแนะนำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนให้มีความเข้าใจ และปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อกำหนดในการทำงานที่กำหนดไว้ในแนวทางการปฏิบัติงานนี้ หากปัญหาในการปฏิบัติตามแนวทางในการปฏิบัติงานนี้ รวมทั้งความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ควรจะได้เสนอปัญหา ตลอดจนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวนั้น ไปยังคณะกรรมการของบริษัท เพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไป
บริษัทจะไม่ยอมให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือผิดจรรยาบรรณเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด บุคคลใดก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติงานนี้จะได้รับโทษทางวินัยและอาจจะถูกเลิกจ้าง ในกรณีมีการทุจริตหรือกระทำความผิดทางอาญา หากหลักฐานเป็นที่ปรากฏชัดแล้ว บริษัทจะทำการรายงานไปยังหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทันที
ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา กรรมการและพนักงานทุกคนสามารถทำการร้องเรียนต่อบริษัท ได้ โดยที่บริษัท จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อมีการร้องเรียนเกิดขึ้น
บริษัทจะพิจารณาข้อร้องเรียนอย่างตรงไปตรงมา การกระทำผิดที่ผิดกฎหมายหรือผิดจรรยาบรรณจะได้รับการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
อย่างไรก็ตาม บริษัทเห็นว่า ไม่ควรมีการส่งบัตรสนเท่ห์ต่างๆ และหากปรากฏว่า การส่งบัตรสนเทห็นั้นกระทำไปด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ การร้องเรียนโดยการส่งบัตรสนเทห์ดังกล่าว อาจถือเป็นการกระทำผิดและอาจมีโทษทางวินัยได้
ข้อมูลทั้งหมดที่ทางบริษัท ได้รับจะถูกนำมาพิจารณาอย่างเหมาะสมและปิดเป็นความลับ