นโยบายความยั่งยืน (Sustainability Policy)
เพื่อให้การดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ ความยั่งยืนขององค์กร ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กรให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) จึงกำหนดนโยบายความยั่งยืนขององค์กร เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ดังนี้
- กำหนดให้มีกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรที่ครอบคลุมการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมีการระบุ ประเมินและตอบสนองต่อ ประเด็นที่เป็นสาระสำคัญของธุรกิจ (Materiality) และความเสี่ยงต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อผู้มีส่วน ได้เสีย ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในการวางแผนธุรกิจ การตัดสินใจทางธุรกิจ และกระบวนการดำเนินงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร
- ยึดถือหลักการประกอบกิจการด้วยความเป็นธรรม (Good Governance) ต่อผู้มีส่วนได้เสียและเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีจริยธรรมและคุณธรรม ตามจรรยาบรรณทางธุรกิจ (Code of Conduct) และมีระบบการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) รวมถึงดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์ ยึดมั่นในความถูกต้องต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (Anti-Corruption) ไม่สนับสนุนให้มีการสร้างความสำเร็จของงานด้วยวิธีการที่ผิดศีลธรรมและกฎหมาย
- กำหนดแนวทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้
- มิติด้านเศรษฐกิจ
- รับผิดชอบต่อลูกค้า พันธมิตร และคู่ค้าตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (Business Chain) โดยพัฒนาระบบการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจัดส่งสินค้าที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยและมั่นคงให้กับลูกค้า ให้ผลตอบแทนกับ คู่ค้าอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พันธมิตร และคู่ค้า รวมถึงส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่ธุรกิจดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- พัฒนานวัตกรรม (Innovation) และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานและสถาบันการศึกษา ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเพิ่มผลผลิต หรือการนำวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตมาสร้างหรือแปรรูปเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ประโยชน์ได้ใหม่ รวมถึงเผยแพร่ (Dissemination) องค์ความรู้และนวัตกรรมเหล่านั้นไปสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม
- มิติด้านสังคม
- เคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม (Human Rights and Labor Practices) โดยเคารพและสนับสนุนการปกป้องสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ ปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสีย บุคคลอื่นและพนักงานอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกเพศ วัย สีผิว การศึกษา เชื้อชาติ ศาสนาและความเชื่อส่วนบุคคล และสนับสนุนให้พนักงานได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน
- พัฒนาศักยภาพและรักษาพนักงาน (Capability Development and Employee Retention) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของพนักงาน ด้วยการสนับสนุนการอบรมให้ความรู้และทรัพยากรที่จำเป็น ทำงานได้เต็มศักยภาพและขีดความสามารถ รวมถึงการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นผู้ประกอบการ
- เสริมสร้างสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน (Health and safety Environment) รวมถึงส่งเสริมการให้ความรู้และสร้างความตระหนักด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานให้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ
- ร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม (Community Involvement and Development) โดยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาภายในชุมชนทั้งการศึกษา เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตและสังคมโดยรวม ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) พร้อมทั้งสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณประโยชน์และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชุมชนอย่างสม่ำเสมอ
- ส่งเสริมความร่วมมือของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย (Participation of Stakeholders) เพื่อสานผลประโยชน์ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขและกำหนดมาตรการที่เหมาะสม กำหนดช่องทางที่ชัดเจนในการเผยแพร่และสื่อสารระหว่างกันอย่างมีส่วนร่วม หลากหลาย และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
- มิติด้านสิ่งแวดล้อม
- ดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management) โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง แสวงหาแนวทางยกระดับประสิทธิภาพการจัดการและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงรักษาระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มคำนึงถึงความสำคัญ อันจะยังประโยชน์แก่สังคมและมวลมนุษยชาติอย่างยั่งยืน
- ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Use of Resources) โดยส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรทุกประเภทให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงแสวงหาแนวทางและวิธีการลดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
- ดำเนินการจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Management) โดยบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องตามกฎหมายและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงแสวงหามาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและวิธีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการประกอบธุรกิจ
- เปิดเผยนโยบายด้านความยั่งยืนขององค์กร ข้อมูลและผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานที่สากลยอมรับอย่างเพียงพอ โปร่งใส และในเวลาที่เหมาะสม
- สร้างความตระหนักและปลูกฝังจิตสํานึกที่ดีแก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ซึ่งมีหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริมและปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบายด้านความยั่งยืนองค์กรฉบับนี้
นโยบายด้านความยั่งยืนฉบับนี้ ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
(นายสุจริต ปัจฉิมนันท์)
ประธานกรรมการ